ส่วนสิ่งใดที่ผัสสะแล้วสะดุ
ทีนี้ จิตกับใจนี้ มันก็เป็นกล้วยเคลือเดียวกั
>> หากเคลือเป็น ใจ
<< ต้นกล้วยก็คือ จิต
>> หากต้นกล้วยเป็น ใจ
<< ดินที่ให้ผลเป็นต้นกล้วยก็ค
>> หากดินเป็น ใจ
<< โลกนี้ก็เป็น จิต
นี่..มันอาศัยกันมาอย่างนี้
ทะเลที่มีคลื่นซาดซัด เกิดจากเหตุปัจจัย คือลมและแรงสั่นสะเทือนของแ
เตโชนี้ก็คือ อุณหภูมิ ไม่ใช่กองไฟที่เราเห็น ความร้อนจากกองไฟนั้น เรียกว่าเตโช คือ อุณหภูมิ
ส่วนกองไฟหรือไฟที่ใช้ตาเห็
ทีนี้คำว่าใจนี้ มันอาศัยผัสสะเกิด ผัสสะเมื่อไหร่ ใจเกิดเมื่อนั้น หากเทียบให้เห็นอย่างง่ายๆ รูปนี้ก็คือ จิต
ส่วนการเกิดผัสสะแล้วเป็นเว
โดนปุ๊บ เจตสิกเกิด เจตสิกนี้ คือ จิตสังขาร ที่ปรุงแต่งมาจากอวิชชาเรีย
ปรุงแต่งจบกระบวนการแห่งเจต
เวทนานี้ก็คือ วิญญาณ ที่รู้อาการจากเจตสิกที่แสด
เมื่อรู้แล้ว ก็สร้างสมมุติ ตรงนี้คือ นามและรูป ที่เกิดจากผัสสะ
นามรูปเหล่านี้ คือรู้แล้ว ว่าอะไร ในรู้แล้วว่าอะไรนี้ แยกออกเป็น มีสมมุติชื่อบัญญัติและไม่ม
นี่..ตรงนี้เราจะมาคุยขยายค
เวทนาตัวนี้ ที่รู้แล้ว มันเป็นสภาพแห่งจิต ที่มีบันทึกสัญญาจากใจหล่อเ
ดุจกับน้ำก็คือ น้ำที่ปรุงแต่งเป็นน้ำอยู่เ
จะยกตัวอย่างใฟ้ฟัง เณรน้อย เขานอนที่ชายน้ำคนเดียว เขาไม่กลัว หากถามว่าเขาไม่กลัวหรือ ก็ต้องตอบว่าเขากลัว ความกลัวและไม่กลัวนี้ ยังหยาบอยู่
แต่ที่นอนได้คนเดียว ก็ต้องเรียกว่าไม่กลัว ถ้ากลัว ก็คงไม่กล้านอน นี่..มันปรุงมาแล้วหนักไปทา
ความไม่กลัวและกล้านอนคนเดี
จิตได้รับการอบรมจากใจแล้ว ว่ารอบตัว มันไม่มีอันตราย ใจจึงวางและคลายความกลัว จิตนั้น มันไม่มีความกลัว ความกลัวเป็นเรื่องของใจ ที่ย้อมลงไปในจิต
สภาพนี้ของเณร เรียกว่า ใจมันวางเพราะรู้แล้ว ว่าไม่มีอะไรที่น่ากลัว เกินกว่าใจจะต้านทานได้ เณรจึงนอนหลับสบาย เพราะใจคลายจากความกลัว เณรถึงนอนอยู่ได้
สภาพอาการแบบนี้ เรียกว่าใจว่าง จากสิ่งทั้งหลาย ความว่างจากสิ่งทั้งหลายนี้
ว่างอย่างนี้ เป็นการว่าง และวาง เพราะไม่มีอะไรมาผัสสะให้ถึ
เป็นความว่างและวาง อย่างที่โลกเขาสอนๆ กัน คือ ฉันไม่เอาอะไรแล้ว ว่างอยู่แล้ว วางอยู่แล้ว นิพพานอยู่แล้ว ว่างอย่างนี้ นี่แหละ คืออาการของเณรที่เป็นอยู่
เขาเรียกว่า ใจมันว่างและวาง เพราะยังไม่รู้ ใจมันอาศัยอวิชชา เป็นเครื่องอยู่ของความว่าง
ใจมันยังไม่ได้ซักฟอกตรงตาม
ถ้าวันใด เณรรู้ว่า ข้าไม่อยู่ ท่านมหาไม่อยู่ ความว่างแห่งใจที่มันวางและ
หากเณรไม่รู้ว่าข้าไม่อยู่ เณรก็จะนอนหลับอย่างอุ่นใจ เพราะความไม่รู้เป็นเหตุ
แต่ถ้ารู้ขึ้นมา ว่าข้าไม่อยู่ ใจก็จะก่ออาการให้เป็นเหตุก
นี่..ว่างและวาง เพราะมันไม่ถึงซึ่งทิฏฐิ ว่างและวาง เพราะอวิชชา คือความไม่รู้เป็นเหตุ จึงมีเจ้าของและตัวตนในความ
เณรนอนหลับสบายได้ ทั้งๆ ที่ไม่มีข้าและมหาอยู่ใกล้ๆ
แต่หากรู้ว่าไม่อยู่ เณรอยู่คนเดียว เณรก็อยู่ไม่ได้ ใจเณรกลัว อะไรรอบๆ ตัว ทั้งๆ ที่ไม่เคยกลัว อะไรรอบๆ ตัว ตอนรู้ว่ามีข้า
นี่..อำนาจแห่งอวิชชา ไม่กลัว เพราะความไม่รู้ และเณรกลัว เพราะความรู้ในสิ่งที่ไม่กล
ความกลัวนี้ คือ ใจ ที่เป็นอาการของจิต ใจนี้ อยู่คู่กับเราตลอดไปจนวันตา
จิตดวงนั้น ก็ต้องวนเวียนมาหาใจ เพื่อเกิดการแสวงหาผัสสะใหม
แต่ใจโง่ มันก็ย้อมให้จิตโง่ด้วยเช่น
นี่ ถ้าเณรได้รับการซักฟอกใจ ว่าสรรพสิ่งรอบๆ กาย มันก็เป็นของมันเช่นนั้นเอง
เณรก็จะมีใจที่เข้าใจโลก และยอมรับความจริงได้ ว่าจะมีใครหรือไม่มีใคร ใจดวงนี้ ก็ต้องเผชิญโลกอยู่เช่นนี้ อย่าได้ไปหวังพึ่งใครเขาอีก
ความหวังทั้งหลาย เกิดจากใจที่ยังไม่เข้าใจ ว่าสรรพสิ่งทั้งหลายที่เราห
คำว่า อัตตาหิ อัตโนนาโถ มันเกิดขึ้นเฉพาะใจ ที่ไม่จำเป็นต้องหวังไปพึ่ง
เที่ยงนี้หวัดดีหลายๆ ฝนกำลังมา หวัดดีสายฝนอันเย็นทรวงท่าม
พระธรรมเทศนา ณ วันที่ 6 สิงหาคม 2557 โดย พระอาจารย์ธรรมกะ บุญญพลัง